ตัวอย่างโปรแกรมเที่ยวอยุธยาสนุกๆ แบบเช้าไป- เย็นกลับ
เริ่มต้นที่วัดพนัญเชิง /วัดใหญ่ชัยมงคล/ แวะเที่ยวตลาดน้ำอโยธยา/วิหารพระมงคลบพิตร/วัดหน้าพระเมรุ/พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์ /ล่องธารา ทัศนากรุงเก่า นั่งเรือชมความงามของวัดวาริมสองฝั่งแม่น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา (ชมวัดพุทไธสวรรย์ - โบสถ์ยอแซฟ - วัดไชยวัฒนาราม - พระตำหนักสิริยาลัย - วัดกษัตราธิราช -เจดีย์ศรีสุริโยทัย - วัดธรรมาราม - วัดท่าการ้อง วัดขุนพรหม - วัดนางกุย - วัดบางกะจะ - ป้อมเพชร - วัดพนัญเชิง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง)
วัดพนัญเชิง ไหว้หลวงพ่อโตหรือหลวงพ่อซำปอกง คนส่วนใหญ่นิยมมาไหว้เพื่อขอความสำเร็จ โดยเฉพาะเรื่องการทำมาค้าขายและหน้าที่การงาน และไปไหว้ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกไม้ หรือจะให้อาหารฝูงปลามากมายบริเวณหน้าวัดก็เพลิดเพลินสนุกไปอีกแบบ
วัดใหญ่ชัยมงคล ไหว้พระศักดิ์สิทธิ์ ชมความรุ่งเรืองของอดีตที่ยิ่งใหญ่ ในวัดมีเจดีย์สูงใหญ่ที่สุดในอยุธยาให้ได้ชม
ตลาดน้ำอโยธยา แวะไปเติมพลังมื้อกลางวันที่ตลาดน้ำอโยธยา ตลาดน้ำเมืองกรุงเก่าที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้ ในตลาดมีอาหารอร่อยให้เลือกชิมมากมาย รวมถึงของฝากอีกสารพัด นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมล่องเรือชมตลาดน้ำ และนั่งช้างเที่ยวรอบๆ ตลาดอีกด้วย
วิหารพระมงคลบพิตร สักการะหลวงพ่อมงคลบพิตร เสริมสิริมงคลให้กับชีวิต ด้านข้างวิหารมีตลาดให้เลือกซื้อของกินและของฝาก ส่วนด้านหน้า คืออุทยานประวัติศาสตร์วัดพระศรีสรรเพชรญ์ ที่สวยงามน่าชม เข้าไปเดินและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้
วัดหน้าพระเมรุ วัดเดียวที่รอดพ้นจากความเสียหายครั้งเสียกรุงครั้งที่ 2 จึงยังมีงานศิลปกรรมสมัยอยุธยาที่สมบูรณ์ โดยเฉพาะพระพุทธรูปทรงเครื่ององค์ใหญ่ในโบสถ์ ที่มีผู้คนเดินทางมากราบไหว้ขอพรให้เจริญรุ่งเรืองเป็นจำนวนมาก
พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์ ตึก 2 สีขาวฟ้าท่ามกลางความร่มรื่นเป็นศูนย์ของเล่นสะสมนับล้านชิ้น ทั้งเก่าใหม่ พร้อมชมภาพวาดน่ารักที่เต็มไปด้วยสีสันและจินตนาการของอาจารย์เกริก ยุ้นพันธ์ นักเขียนนิทานขวัญใจเด็กๆ
ล่องธารา ทัศนากรุงเก่า ชมทัศนียภาพของโบราณ วัดวาอารามรอบเกาะเมือง และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก
โดยผ่านสถานที่ต่างๆ ดังนี้ คือ วัดพุทไธสวรรย์ โบสถ์ยอแซฟ วัดไชยวัฒนาราม พระตำหนักสิริยาลัย วัดกษัตราธิราช เจดีย์ศรีสุริโยทัย วัดธรรมาราม วัดท่าการ้อง วัดขุนพรหม วัดนางกุย วัดบางกะจะ ป้อมเพชร วัดพนัญเชิง
นอกจากนี้ ยังมีเรือบริการอาหารให้อิ่มอร่อยและเลือกสรรได้หลากหลายเมนู สอบถามรายละเอียดการบริการได้ที่ร้านอาหารบริเวณรอบเกาะเมือง
- ก่อนกลับแวะซื้อของฝากกลับบ้านที่มีให้เลือกมากมาย แต่ที่ขาดไม่เห็นจะเป็นโรตีสายไหม ที่หาซื้อได้ทั่วไปในตัวเมืองอยุธยา โดยเฉพาะมีเจ้าเด็ดอยู่หลายร้านบริเวณหน้า รพ. พระนครศรีอยุธยา ราคาจำหน่ายตั้งแต่ถุงละ 20 -100 บาท
การเดินทาง:
รถยนต์: จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้หลายเส้นทาง ดังนี้
- ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ผ่านประตูน้ำพระอินทร์ แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 309 เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- ใช้ทางหลวงหมายเลข 304 (ถนนแจ้งวัฒนะ) หรือทางหลวงหมายเลข 302 (ถนนงามวงศ์วาน) เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 306 (ถนนติวานนท์) แล้วข้ามสะพานนนทบุรีหรือสะพานนวลฉวี ไปยังจังหวัดปทุมธานีต่อด้วยเส้นทาง ปทุมธานี-สามโคก-เสนา (ทางหลวงหมายเลข 3111) เลี้ยวแยกขวาที่อำเภอเสนา เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3263 เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-นนทบุรี-ปทุมธานี ทางหลวงหมายเลข 306 ถึงทางแยกสะพานปทุมธานี เลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 374 แล้วไปแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 3309 ผ่านศูนย์ศิลปาชีพบางไทร อำเภอบางปะอิน เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
รถโดยสารประจำทาง : บริษัท ขนส่ง จำกัด มีบริการรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยาทุกวัน วันละหลายเที่ยว ออกจากสถานีขนส่งหมอชิต ถนนกำแพงเพชร 2 รถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 กรุงเทพฯ-พระนครศรีอยุธยา และรถโดยสารปรับอากาศชั้น 2 กรุงเทพฯ-ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร-พระนครศรีอยุธยา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2936 2852 -66 หรือ เว็บไซต์ www.transport.co.th
รถไฟ: มีบริการรถไฟออกจากสถานีหัวลำโพง ไปอยุธยาทุกวัน วันละหลายเที่ยว สอบถามรายละเอียดโทร. 0 2223 7010, 0 2223 7020 หรือ www.railway.co.th
รถตู้: จากกรุงเทพไปอยุธยา มีบริการรถตู้ตรงบริเวณอนุสาวรีย์ และตรงข้ามโรบินสันรังสิต
ขอขอบคุณข้อมูล: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคกลาง
เรื่อง: กันต์ ณ ปกรณ์
ภาพ: ธนปกรณ์ สุขสาลี และทศพร สุภาพ
Credit : sanook.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น