Free JavaScript from 
Rainbow Arch

//////////////

วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

รำลึกวัยเยาว์ กินขนม-ชมของเล่นเก่า ที่ ตลาดคลองสวน 100 ปี

ใคร.. ที่ชอบและอยากสานต่อความทรงจำที่ขาดหาย ตลาดคลองสวน ช่วยเติมเต็มได้

รำลึกวัยเยาว์ กินขนม-ชมของเล่นเก่า ที่ ตลาดคลองสวน 100 ปี
รำลึกวัยเยาว์ กินขนม-ชมของเล่นเก่า ที่ ตลาดคลองสวน 100 ปี
เราทุกคนล้วนแต่ผ่านวัยเด็ก และมีความทรงจำในความสนุกสนานที่ไม่เคยเลือนหาย เมื่อเวลาผ่านไปไม่ว่าจะมากหรือน้อย หากเราสามารถเรียกคืนความประทับใจในวัยเยาว์กลับมาได้ ก็เหมือนความสุข ความสนุก ที่ห่างหายได้ถูกเติมเต็มอีกครั้ง ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ยังมีชุมชนโบราณอายุกว่า 100 ปี ที่ซุ่มซ่อนตลาดเก่าแก่ และสภาพชุมชนแบบดั้งเดิมเอาไว้ ด้วยเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครตรงที่เป็นดินแดนสองจังหวัด นั่นคือ “ ตลาดคลองสวน 100 ปี ” ชุมชนเก่าแก่ที่ดำรงชีวิตด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลายแตกต่าง แต่กลมกลืนและเหนียวแน่นมากว่า 100 ปี สมกับชื่อที่จารึกเรียกขานไว้ ด้วยว่าเป็นชุมชนที่มีทั้งชาวจีน ชาวไทยมุสลิม และชาวไทยพุทธ เกื้อกูลอยู่รวมกัน ไม่ว่าจะผ่านมากี่ร้อนกี่หนาว ผ่านเรื่องราวใดๆ มาก็ตาม แต่รากเหง้าของชุมชนแห่งนี้ก็ไม่มีจืดจางลงแต่อย่างใด

รำลึกวัยเยาว์ กินขนม-ชมของเล่นเก่า ที่ ตลาดคลองสวน 100 ปี

 รำลึกวัยเยาว์ กินขนม-ชมของเล่นเก่า ที่ ตลาดคลองสวน 100 ปี
ตลาดคลองสวน 100 ปี เป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ ในอดีตคลองสวนเป็นเส้นทางสำหรับเดินทางไปกรุงเทพมหานคร จากประตูน้ำท่าถั่ว (ฉะเชิงเทรา) แล่นผ่านตลาดคลองสวน ก่อนจะแล่นเข้าสู่ประตูน้ำ (วังสระปทุม) กรุงเทพมหานคร ปัจจุบัน ตลาดคลองสวน 100 ปี อยู่ในความดูแลของสำนักงานเทศบาลตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา และสำนักงานเทศบาลตำบลคลองสวน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ที่ได้สนับสนุนให้ชุมชนร่วมกันอนุรักษ์บ้านเรือน ที่ยังคงเอกลักษณ์ของสิ่งปลูกสร้างแบบโบราณ เช่นเดียวกับวัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่สืบทอดจากรุ่นต่อรุ่นกันมา ชุมชนแห่งนี้จึงยังคงไว้ซึ่งความเรียบง่าย อบอุ่น จริงใจ และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบอย่างของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่มาในรูปของชุมชนเก่าได้อย่างน่าชื่นชม
รำลึกวัยเยาว์ กินขนม-ชมของเล่นเก่า ที่ ตลาดคลองสวน 100 ปี
รำลึกวัยเยาว์ กินขนม-ชมของเล่นเก่า ที่ ตลาดคลองสวน 100 ปี
แต่เดิมนั้น ตลาดคลองสวน เป็นตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ในยุคที่การค้าการสัญจรยังต้องพึ่งพาการเดินทางโดยเรือเป็นหลัก สมัยนั้นการจะเดินทางระหว่างเมืองแปดริ้ว หรือฉะเชิงเทรา เพื่อมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ จะต้องใช้เรือเมล์ขาวของนายเลิศ รับคนจากประตูน้ำท่าถั่ว ผ่านตลาดคลองสวน ก่อนจะแล่นเข้าสู่ประตูน้ำ (วังสระปทุม) ซึ่ง ตลาดคลองสวน แห่งนี้ ถือเป็นจุดแวะพักของเรือในสมัยนั้น นั่นจึงทำให้เกิดเป็นจุดแลกเปลี่ยนสินค้า และเป็นเส้นทางคมนาคมตามมา ก่อนจะขยับยายกลายเป็นชุมชนของผู้คนหลากหลายเชื้อชาติและศาสนา และน่าจะถือว่าเป็นชุมชนต้นตำรับของสภากาแฟที่คนหนุ่มสาวและผู้เฒ่าผู้แก่ จะมาสังสรรค์เสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองกันให้เห็นชินตาในทุกๆ เช้า อย่างนี้นี่เล่า คือที่มาของ “สภากาแฟ” ที่แท้จริง

ปัจจุบันนี้ วิถีชีวิตของ ชาวคลองสวน ทั้งชาวไทยจีน ชาวไทยพุทธ ชาวไทยมุสลิม ก็ยังคงเหนียวแน่นดังเช่น 100 กว่าปีที่ผ่านไป ไม่แปลกที่จะพานพบโรงเจ วัด สุเหร่า ปลูกสร้างไร่เรียงกันไปอย่างไม่แปลกแยก ตลาดคลองสวน 100 ปี ในปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสองหน่วยงานในสองจังหวัด คือ สำนักงานเทศบาลตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา และ สำนักงานเทศบาลตำบลคลองสวน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ โดยยังคงเน้นให้ชุมชนมีความเรียบง่ายตามวิถีดั้งเดิมมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเพิ่มเข้ามาให้ชุมชนเป็นที่รู้จักมากขึ้น

เมื่อแรกมาเยือน เราก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแบบชุมชนชานเมือง ร้านค้าที่เราคุ้นเคยมาแต่เล็กซึ่งปัจจุบันถูกเลือนหายไปจากความสะดวกสบาย ของห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ ไม่มีปรากฏให้รกสายตาที่ ตลาดคลองสวน 100 ปี แห่งนี้ หากอยากจับจ่าย ที่นี่จะเต็มไปด้วยร้านค้าปลีกหรือที่เรียกว่า “ร้านโชห่วย” เรียงราย ของกินของใช้จุกจิกไปจนถึงสิ่งจำเป็นขนาดใหญ่ๆ ถามได้ มาถามได้ เพราะเขายังคงค้าขายกันเหมือนในอดีตที่เคยเป็นมา

ตลาดคลองสวน ยังขึ้นชื่อลือชาเรื่องความอร่อย อาหารจานพื้นๆ ที่นี่ขอบอกว่ารสชาติไม่พื้น เพราะเขายืนตามสูตรดั้งเดิมที่ทำกินกันมา ไม่แปลงเครื่องปรุงให้ผิดกลิ่นเพี้ยนรส จึงมั่นใจได้ว่าแต่ละเมนูนั้นถือเป็น “ต้นตำรับ” ไม่ว่าจะเป็น เป็ดพะโล้ ไก่พะโล้ สูตรโบราณแท้ๆ ไม่ต้องอาศัยคำมาห้อยท้าย หรือข้าวห่อใบบัวราคาเบาๆ แต่แน่นด้วยเครื่องเคราคุณภาพดีเช่นเดียวกับบ๊ะจ่างลูกโตๆ หรือจะล้างปากด้วยกาแฟ ที่นี่ก็มีร้านเด็ดชื่อดังอย่าง “แป๊ะหลี” กาแฟชงกลมกล่อมรสดีที่ขายกันมากว่า 70 ปี บวกกับสำเนียงเสียงพูดที่กล่าวต้อนรับทุกคนที่เข้ามาภายในตลาดและเป็นกันเอง ทำให้ร้านกาแฟโบราณของ “แป๊ะหลี” กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ซึ่งเป็นมนต์เสน่ห์อีกอย่างของตลาดคลองสวนแห่งที่ต้องเข้าไปสัมผัส
รำลึกวัยเยาว์ กินขนม-ชมของเล่นเก่า ที่ ตลาดคลองสวน 100 ปี
รำลึกวัยเยาว์ กินขนม-ชมของเล่นเก่า ที่ ตลาดคลองสวน 100 ปี

จุดเด่นของตลาดอีกอย่างก็คือ “สะพานสูง” ที่ตั้งอยู่โดดเด่นกลางตลาด เป็นสะพานไม้ที่มีความสูงและชันมาก และเมื่อเดินขึ้นไปข้างบนสะพานจะโยกเล็กน้อย ทำให้เป็นสะพานที่ต้องใช้ความกล้าในการข้ามพอสมควร แต่ชาวตลาดเขาก็ใช้สะพานแห่งนี้ข้ามไปข้ามมาเป็นประจำ นี้ชื่อ “อัศวาณิชย” ได้รับการซ่อมแซมมาแล้วหลายครั้งแล้ว เหตุที่ต้องสูงมากขนาดนี้ก็เพราะว่าในสมัยก่อนมีเรื่องขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ จะต้องผ่านคลองนี้ จึงต้องสร้างให้สูงเพื่อให้พ้นเรือขนาดใหญ่ แม้ในปัจจุบันไม่มีเรือใหญ่ผ่านแล้ว ชุมชนก็ยังคงอนุรักษ์สะพานนี้ไว้ให้คงอยู่เป็นอนุสรณ์บนพื้นน้ำ และอยู่กับชุมชนตลาดคลองสวนต่อไป

 

การเดินทางมายัง ตลาดคลองสวน สามรถเดินทางมาได้ในหลายรูปแบบ

เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว สามารถไปได้ทาง 3 ทาง คือ ใช้ถนนทางด่วนมอเตอร์เวย์ สังเกตป้ายชี้ ตลาดคลองสวน 100 ปี เลี้ยวซ้าย หรือถนนสายอ่อนนุช – ฉะเชิงเทรา ผ่านเทคโนลาดกระบังขับตรงไปตลอด ตลาดคลองสวน 100 ปี อยู่ด้านซ้ายมือ

หรือจะมาทางถนนบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 35 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนทางไป Thai Country Club ประมาณ 15 กิโลเมตร จนเจอถนนหมายเลข ฉช 3001 เลี้ยวซ้ายไปประมาณ 2 กิโลเมตร ทางเข้าตลาดอยู่กิโลเมตรที่ 9-10 หรือ กิโลเมตรที่ 10-11 หรืออยากสะดวกสบาย ก็จะมีรถประจำทางจากสถานีขนส่งเอกมัย (บริษัท ฉะเชิงเทราขนส่ง) สายเอกมัย ฉะเชิงเทรา (สาย 55) ไว้คอยบริการ

ใครที่ชอบบรรยากาศของวันวาน อยากสานต่อความทรงจำที่ขาดหายไปให้กลับมามีชีวิตชีวาโดยที่ไม่เสียเวลาเดิน ทางจากเมืองกรุงมากนัก ตลาดคลองสวน 100 ปี ที่ยังอบอวลด้วยมนต์แห่งอดีต น่าจะช่วยเติมเต็มได้ไม่น้อยเลยทีเดียว


credit:   http://www.emaginfo.com ร่วมกับ travel.mthai.com

วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ดับเบิ้ลช็อกโกแลตคัพเค้ก Double Chocolate Cupcake

คัพเค้กเนื้อบัตเตอร์ที่หอมหวานด้วยกลิ่นบัตเตอร์ กรุบกรอบด้วยช็อคโกแลต 2 ชนิด และยังมีหน้าท๊อปปิ้งไอซิ่งที่ใส่โอริโอ้อย่างจุใจ ใครรักในช็อคโกแลคตัวนี้ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ ^^

สูตรดับเบิ้ลช็อกโกแลตคัพเค้ก Double Chocolate Cupcake

ส่วนผสมสำหรับ : 10-12 ชิ้น
เวลาในการทำ : 1 ชั่วโมง 30 นาที

อุปกรณ์

1. แม่พิมพ์คัพเค้ก
2. กระดาษถ้วยคัพเค้ก
3. ตะกร้อตีไข่
4. ชามผสม
5. ที่ตักไอศกรีม
6. ถุงบีบแต่งหน้าเค้ก
7. ถุงพลาสติก

 #2  URL <input style='width: 400px' type=text value = 'http://data.foodtravel.tv/datastore/recfood/1204/recfood1204_1_normal.jpg' />         <script language='javascript1.1' src='http://hits.truehits.in.th/data/t0029930.js'></script><NOSCRIPT><a target='_blank' href='http://truehits.net/stat.php?id=t0029930'> <img src='http://hits.truehits.in.th/noscript.php?id=t0029930' alt='Thailand Web Stat' border=0 width=14 height=17></a><a target='_blank' href='http://truehits.net/'>Truehits.net</a></NOSCRIPT>
ส่วนผสมดับเบิ้ลช็อกโกแลตคัพเค้ก

เนื้อเค้ก
1. แป้งเค้ก 150 กรัม
2. ผงฟู 1/2 ช้อนชา
3. เนย 200 กรัม
4. น้ำตาลไอซิ่ง 100 กรัม
5. ไข่ไก่ 3 ฟอง
6. กลิ่นวนิลา 1/2 ช้อนชา
7. กลิ่นวนิลาบัตเตอร์ 1/2 ช้อนชา
8. ช็อคโกแลต (หั่นเต๋า) 100 กรัม
9. ไวท์ช็อคโกแลต (หั่นเต๋า) 100 กรัม

ท๊อปปิ้งไอซิ่ง Topping Icing
1. ไอซิ่ง 350 กรัม
2. โอรีโอ้ 100 กรัม
3. เนย 500 กรัม



วิธีทำดับเบิ้ลช็อกโกแลตคัพเค้ก
1. อุ่นเตาที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส
2. นำเนยอุณหภูมิห้องตักใส่ชามผสมที่เตรียมไว้
3. ใช้ตระกร้อตีครีมให้เป็นเนื้อเดียวกัน
4. ใส่ไอซิ่ง ตีผสมต่อจนเป็นครีม
5. ใส่ไข่ไก่ลงไปตีจนส่วนผสมเข้ากันไม่แตกตัว
6. ร่อนแป้งเค้กและผงฟูรวมกัน ใส่ลงในชามผสม
7. ตีต่อจนเข้ากันดี
8. ใส่กลิ่นวนิลาและกลิ่นวนิลาบัตเตอร์
9. คนต่อจนผสมกันทั้งหมด
10. ใส่ช็อคโกแลตและไวท์ช็อคโกแลตครึ่งหนึงของส่วนผสม
11. ใช้พายยางตะล่อมพอเข้ากัน
12. ตักใส่ถ้วยกระดาษที่กรุดอยู่บนแม่พิมพ์
13. นำช็อคโกแลตที่เหลือมาโรยแต่งหน้าเค้ก
14. อบที่ 175 องศาเซลเซียล นาน 25 นาที
15. เมื่อสุกนำมาพักบนตะแกรงจนเย็น

วิธีทำ Topping Icing

1. ตักเนยที่อุณหภูมิห้องใส่ในชามผสม
2. ตีจนเป็นเนื้อเดียวกัน
3. ใส่ไอซิ่งทั้งหมดผสมให้เข้ากันจนเป็นครีม
4. บดโอรีโอ้ให้ละเอียด
5. เทใส่ในครีมที่ตีไว้
6. คนจนเข้ากัน
7. นำมาแต่งหน้าคัพเค้กตามชอบ


credit: http://www.foodtravel.tv/


วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

น้ำตกสุนันทา นครศรีธรรมราช

วันนี้ Travel MThai ขอพาสมาชิกมิตรรัก ล่องใต้ไปเที่ยว น้ำตกสุนันทา กันครับ ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดเล็ก อยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติเขานัน อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ห่างจากอำเภอท่าศาลา 30 กม. นอกจากนี้อุทยานฯ แห่งนี้ ยังมีอาณาเขตที่ครอบคลุม เขตป่าสงวนแห่งชาติป่ากรุงชิงบางส่วน เป็นสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งที่เมืองคอนครับ

น้ำตกสุนันทา นครศรีธรรมราช
อุทยานแห่งชาติเขานัน มีเนื้อที่ประมาณ 436 ตรกม. ลักษณะเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นแนวติดต่อมาจากอุทยานแห่งชาติเขาหลวง เป็นป่าต้นน้ำของคลองหลายสาย ภายในอุทยานมีสถานีที่เที่ยวน่าสนใจคือ น้ำตกสุนันทา เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่มีความงดงามตามธรรมชาติ สายน้ำไหลจากหน้าผาชันลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง และไหลลงสู่ลำคลอง กลายลำน้ำสายสำคัญในเขตอำเภอท่าศาลา สามารถจัดกิจกรรมล่องแพตามลำน้ำได้ในช่วงฤดูน้ำหลาก
น้ำตกสุนันทา นครศรีธรรมราช
น้ำตกสุนันทา เกิดจากคลองปากเจา มี 3 ชั้น มีความสูงประมาณ 70 เมตร และเป็นชั้นบนมีสวยงามมากที่สุด ปัจจุบันน้ำตกได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูท่องเที่ยวระหว่างหน้าฝนจนถึงหน้าหนาวมีผู้มาเยือนมากเป็นพิเศษ
น้ำตกสุนันทา นครศรีธรรมราช
สิ่งที่น่าสนใจบริเวณ น้ำตกสุนันทาเส้นทางศึกษาธรรมชาติบัวแฉกใหญ่ จุดเริ่มต้นอยู่ใกล้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ จะมีจุดชมทิวทัศน์ที่มองเห็น น้ำตกสุนันทา จากมุมสูงจากนั้นเส้นทางจะผ่านป่า ดิบชื้น มีพืชพันธุ์มากมายให้ชมนานาชนิด เช่น พญาไม้หวายพวน เสม็ดเขา มหาสดำ และกล้วยไม้ชนิดต่างๆ เป็นต้นเป็นเส้นทางที่จะพบเห็นความสวยงามของ “บัวแฉกใหญ่” ซึ่งเป็นเฟิร์นดึกดำบรรพ์ มีอายุประมาณ 230 ล้านปี ตามปกติจะพบที่ระดับความสูง 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลขึ้นไป แต่ที่นี้จะพบในระดับความสูงเพียง 400 เมตร แต่จะพบเป็นกลุ่มเล็กๆ กระจายไปตามลาดของภูเขา เดินตามเส้นทางขึ้นไปจนถึงจุดชมทิวทัศน์ ซึ่งสามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นเหนือทะเลอ่าวไทย ในยามฟ้าใสจะมองเห็นตัวเมืองท่าศาลาและอ่าวไทย ได้อย่างชัดเจนเวลากลางคืนเห็นแสงไฟจากเรือประมงในทะเลกว้างใหญ่ อีกด้านหนึ่งของจุดชมทิวทัศน์เป็นจุดชมลานมอสและลานบัวแฉก และสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเทือกเขาสลับซับซ้อน
น้ำตกสุนันทา นครศรีธรรมราช
การเดินทางไปยัง น้ำตกสุนันทา นครศรีธรรมราช
จากกรุงเทพฯ ถึง จ.สุราษฎร์ธานี แล้วใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 401 ผ่าน อ.กาญจนดิษฐ์ อ.ดอกสักเข้าสู่ จ.นครศรีธรรมราช โดยผ่าน อ.ขนอม อ.สิชล ถึงสี่แยกบ้านกลาย อ.ท่าศาลาถึงหลักกิโลเมตรที่ 110 แล้วเลี้ยวขวาไปทางบ้านปากเจา ระยะทาง 15 กม.ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขานัน
น้ำตกสุนันทา นครศรีธรรมราช

credit : http://travel.mthai.com/blog/62998.html

วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

10 อันดับ ข้อเท็จจริงกับเมนูอาหารที่คุณก็เคยทาน

10. โปเตโต้ชิพ อาหารขบเคี้ยว

การทอดโปเตโต้ชิพจะทอดกันที่อุณหภูมิสูงทำให้มีสารเคมีอะคริลิไมด์ (Acrylimides) ออกมา ซึ่งรู้จักกันดีว่า เป็นสารก่อโรคมะเร็ง และทำลายประสาท กินมันฝรั่งทอดเพียงวันละ 1 ถุง เท่ากับซดน้ำมันพืชปีละ 5 ลิตรเชียวนะ
9. โดนัท
โดยเฉลี่ยแล้ว จะให้พลังงานประมาณ 300 แคลอรี่ ในโดนัทหนึ่งชิ้นมีแป้งคาร์โบไฮเดรตอยู่มากกว่า 50% ของที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน มี เกลือโซเดียมอยู่สูงมาก ทำให้ร่างกายขาดน้ำได้
8. ไอศครีม

มีไขมันอยู่สูงมาก (ขนาดปกติ 4 ออนซ์) มีไขมันเกินกว่า 50% ของไขมันที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวันมีคาร์โบไฮเดรตอยู่มาก เกือบ 40% ของ คาร์โบไฮเดรตที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวันมีน้ำตาลอยู่มาก ทำให้มีความกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้น เป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเ่ยวย่น
7. ชิ้นไก่เนี้อนุ่มไม่มีกระดูก


ทำมาจากชิ้นส่วนของไก่ที่ไม่ใช้แล้ว น้อยมากที่จะทำมาจากเนื้อขาวจริงๆการรับประทานต่อครั้งโดยทั่วไป จะให้พลังงาน 340 แคลอรี่ 50% เป็น ไขมันมีแป้งขนมปังผสมอยู่มาก จึงมีคาร์โบไฮเดรตอยู่สูง มีการเติมสารปรุงรส (MSG=Monosodium Glutamate) ทำให้ปวด ศีรษะ
6. น้ำอัดลม

สารตัวสำคัญที่มีอยู่ในโค้กก็คือกรดกำมะถัน (Phosphoric acid) ในด้านความเป็นกรดด่าง มันมีความเป็นกรดอยู่สูงมากพอที่จะ ละลายตะปูได้ภายใน 4 วันกรดที่สะสมอยู่ในร่างกาย ทำให้ยากที่จะทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้
5. พิซซ่า


พิซซ่าในเชิงทางการค้าจะประกอบไปด้วยอาหารที่มาจากการตัดแต่งทางพันธุกรรม 5 ชนิด + เนยแท้ (cheese) เพียง 10% เท่านั้น + แป้ง ที่ผ่านการปรุงแต่งให้ขาวที่ได้ทำการฟอกสี ทำให้วิตามินและเกลือแร่ออกไปแล้ว แต่ได้ทำการเติมเกลือแร่สังเคราะห์ตามจำนวนโมเลกุลที่มันเคยมีอยู่ เข้าไป ใหม่ + ซอสมะเขือเทศ ทำด้วยสารที่คล้ายมะเขือเทศที่สร้างยาฆ่าแมลงของมันขึ้นมาได้เอง ในร่างกายของท่าน + แป้งสาลีที่นำมาใช้เป็นแป้ง ชนิดที่มีการตัดแต่งทางพันธุ์กรรม + มีน้ำมันฝ้ายประกอบอยู่ด้วย ฝ้ายไม่ได้จัดเป็นพืชพวกอาหาร มันผ่านการสเปรย์ด้วยยาฆ่าแมลงที่ชาวไร่ใช้
4. คุกกี้

ที่เด่นชัดมากก็คือ ส่วนของน้ำตาลมีอยู่สูงถึง 23 กรัมเลยทีเดียว ช็อกโกเล็ตนั้นเป็นสารอาหารรายการสุดท้าย นั่นหมายความว่า มีช็อคโกเล็ตประกอบ อยู่น้อยมาก น้ำตาลปริมาณสูง ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นและเกิดริ้วรอยได้เร็วยิ่งขึ้น
3. เฟรนช์ฟราย
เป็นอาหารที่มี “ความเป็นพิษสูง”การทอดเฟร้นช์ฟราย จะทอดกันที่อุณหภูมิสูง ทำให้มีสารเคมีอะคริลิไมด์(Acrylimides) ออกมา ซึ่ง รู้จักกันดีว่า เป็นสารก่อโรคมะเร็งและทำลายประสาท
2. ฮอทด็อก

ฮอทด็อกทำมาจากเนื้อส่วนที่เหลือที่แย่ที่สุดจากโรงฆ่าสัตว์ เนื้อส่วนใดที่ขายเป็นส่วนของมันไม่ได้แล้วจะกองอยู่ที่พื้น และนำมาบดทำเป็นเบอร์เกอร์ รวมทั้งกีบ กระดูก จมูก สันจมูก หู เล็บและส่วนอื่นๆของมัน เพราะว่าฮอทด็อกทั้งหมดทำมาจากสัตว์ จึงสามารถขึ้นป้ายว่า เนื้อวัวแท้ (Pure beef) หรือ ทำจากไก่งวงแท้ 100%
1. แฮมเบอเกอร์

แฮมเบอร์เกอร์ทำมาจากเนื้อส่วนที่เหลือที่แย่ที่สุดจากโรงฆ่าสัตว์ เนื้อส่วนใดที่ขายเป็นส่วนของมันไม่ได้แล้วจะกองอยู่ที่พื้น และนำมาบดทำเป็น เบอร์เกอร์ รวมทั้งกีบ กระดูก จมูก หูและส่วนอื่นๆของมัน เพราะว่าเบอร์เกอร์ทั้งหมดทำมาจากสัตว์ จึงสามารถขึ้นป้ายว่า เนื้อวัวแท้ (Pure beef)แฮมเบอร์เกอร์ทั้งหมดจะใส่สารปรุงรส (MSG=Monosodium Glutamate) ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้ MSG เป็นสารเคมีที่ห้องปฏิบัติการทดลองใช้ช่วยทำให้สัตว์อ้วนขึ้น และท้ายที่สุดก็ทำให้ท่านอ้วนขึ้นด้วย อุตสาหกรรมปศุสัตว์ เป็นผู้ใช้ยาปฏิชีวนะมากที่สุด ในโลก เพื่อใช้ในการหักล้างแบคทีเรียที่เป็นอันตรายในเนื้อ

credit : http://www.toptenthailand.com/321-top.html

วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เที่ยว ดีสนีย์แลนด์ ฮ่องก

ดิสนีย์แลนด์ ฮ่องกง หลายคนอาจเคยไปมา อีกหลายคนคงยังหาข้อมูลอยากไป ดีสนีย์ที่นี่ก็นับว่าสวย ดูโรแมนติกดี มีบริการจัดงานพิเศษในสวนสนุกด้วย อย่างเช่นอวยพรวันเกิดด้วยการแสดงแฟนซีของดีสนีย์ หรือ ทำพิธีขอหมั้นขอแต่งงานแบบเซอร์ไพร์ ถ้ากำลังสนุกอยู่สวนอยู่ดีๆมีคนแต่งตัวมิ๊กกี้เมาส์มาเต้นและร้องเพลงรอบๆตัวเรา แล้วแฟนก็คุกเข่าขอแต่งงานคงตกใจ ปลื้มใจรับปากแบบไม่ต้องไตร่ตรองเป็นแน่ๆ  บริการนี้แค่โทรคุยกับดีสนีย์ รับรองจะได้รับความทรงจำที่ไม่มีวันลืม แต่วันนี้ไม่มีภาพส่วนนี้มาให้ดู เพราะวันนี้ไปเพราะพาญาติไปเที่ยว เลยได้แต่เก็บภาพรอบๆสถานที่มาให้ชม

ดิสนีย์แลนด์ ฮ่องกง
เที่ยว ดีสนีย์แลนด์ ฮ่องกง

สถานที่ภายในสวนสนุก ดีสนีย์แลนด์ ฮ่องกง ก็ดูเรียบร้อย สถานที่ไม่ใหญ่มาก เหมาะที่จะไปถ่ายรูปอย่างมากๆ แต่เสียดายที่มันเป็นสวนสนุก คนพลุกพล่าน จะถ่ายภาพสวยๆก็ดูลำบากพอควร อันนี้คงต้องอาศัยไอเดียเข้าช่วย สวนสนุกเครื่องเล่นไม่มากนัก แต่ร้านขายของที่ระลึกมากมายจริงๆ มีทั้งร้านขายเครื่องประดับแบนด์อื่นๆเข้าไปขายโดยใช้โลโก้ของดิสนีย์เป็นหลัก ราคาแพงพอควร มีเครื่องดื่มน้ำฟรีบริการหลายจุด อาหารภายในรสชาติแย่พอควร แต่ในยามหิวก็พอประทัง ไม่ควรไปหน้าร้อน ต้องเดินตากแดดเป็นส่วนใหญ่ ไปช่วงปลายปีตุลาคมถึงมีนาคมดีที่สุดไม่ร้อนแดดจ้า
P1010135
เพิ่มคำอธิบายภาพ
ดิสนีย์แลนด์ ฮ่องกง
เดินทางโดยรถไฟใต้ดินสายสนามบินแต่เราจะไม่เลือกขบวนที่ไปสถามบินเลือกนั่งขบวนที่วิ่งไป Tung Chung Station ทั้งสองขบวนวิ่งบนรางเส้นเดียวกันแต่ว่าสถานีที่จอดไม่เหมือนกัน ให้ไปลงรถที่สถานี  Sunny Bay(ภาษาท้องถิ่น “ยั้นโอว”) แล้วเปลี่ยนขบวนรถไปดิสนี่ย์อีกเพียงป้ายเดียวเท่านั้น
P1010095
นี่ก็เป็นภาพภายนอกสวนสนุก ดีสนีย์แลนด์ ฮ่องกง ซึ่งก็นับว่าบรรยากาศดูดีพอสมควร ท่านที่ต้องการพักในโรงแรมดีสนี่ย์ควรติดต่อสอบถามจากทัวร์ที่ขายบัตรดีสนี่ย์จะสะดวกกว่าจองเอง เพราะก็จองยากพอสมควร
ดีสนีย์แลนด์ ฮ่องกง
ดิสนีย์แลนด์ ฮ่องกง
สวนสนุก ดีสนีย์แลนด์ ฮ่องกง
P1010141

credit:http://travel.mthai.com/member-blog/42627.html

วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ทำขนมชั้น


ขนมชั้น

ส่วนผสมทำขนมชั้น
1. แป้งท้าวยายม่อม 140 ก.

2. แป้งข้าวจ้าว 70 ก.

3. แป้งมัน 100 ก.

4. กะทิ 800 มล.

5. น้ำตาลทราย 400 ก.

6. กลิ่นมะลิ 1/2 ชช.

7. สีผสมอาหารตามชอบ อย่างละ 3 หยด

ส่วนผสมขนมชั้น
มาดูวิธีทำขนมชั้นกันค่ะ
น้ำกะทิ ขนมชั้น
หลังจากกะทิเย็นแล้ว เราจะผสมส่วนของแป้ง เริ่มจากแป้งเท้ายายม่อม แป้งมัน และแป้งข้าวจ้าว จากนั้นเติมกะทิทีละน้อย
แป้งเท้ายายม่อม ขนมชั้น
นวดแป้งไปเรื่อยๆ นวดแป้งจนละลายดีแล้วเราจะนำมากรองด้วยกระชอนตาถี่
นวดแป้ง ขนมชั้น
จากนี้เราจะนำไปผสมสีค่ะหยอดสีใส่ถ้วยตวงไว้ นำส่วนผสมมาเทในถ้วยให้ได้ปริมาณเท่าๆกัน เสร็จแล้วคนให้เข้ากัน
ผสมสี ขนมชั้น

เตรียมซึ้งนึ่ง ใส่น้ำและต้มให้เดือดจัด นำพิมพ์ลงนึ่งให้ร้อนจัดประมาณ 15 นาที ก่อนที่จะนึ่งขนม ไม่อย่างนั้นขนมจะติดพิมพ์ค่ะ พอพิมพ์ร้อนได้ที่แล้ว เราจะเทส่วนผสมลงไปในพิมพ์ทีละสีค่ะ( ก่อนที่จะเทส่วนผสมเราจะต้องคนก่อนเททุกครั้ง) เรื่องความหนาของชั้นขนมต้องไม่บางหรือหนาเกินนะคะ เมื่อมีฟองอากาศต้องไล่ออกให้หมด ปิดฝา และใช้ไฟอ่อนนึ่ง เพื่อไม่ให้ขนมชั้นของเราเกิดฟองอากาศขึ้นค่ะ ชั้นนึงเราใช้เวลานึ่งประมาณ 5-7 นาที ถ้าแป้งสุกแล้วเนื้อจะเนียนและใสขึ้นค่ะ เทสีสลับชั้นไปเรื่อยๆค่ะ
ขนมชั้น สีส้ม
ขนมชั้น เทแป้งสีฟ้า

ขนมชั้น สีชมพู

เมื่อนึ่งขนมเสร็จครบทุกชั้นแล้ว เราต้องพักขนมชั้นไว้ให้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมงก่อนแกะออกจากพิมพ์   เคล็บลับการนึ่งขนมชั้น เวลาเปิดฝาหม้อต้องเปิดให้เร็ว เพื่อไม่ให้น้ำหยดลงบนตัวขนมค่ะ
นึ่ง ขนมชั้น
หลังจากที่แกะออกจากพิมพ์แล้ว ก่อนตัดขนมเพื่อไม่ให้มีดติดขนมเราจะนำมีดแช่น้ำก่อนตัดนะคะ และลงมีดในครั้งเดียว เราจะหั่นขนมชั้นเป็นชิ้นสีเหลี่ยม
ขนมไทย ขนมชั้น
หั่น ขนมชั้น
ดูสิค่ะหั่นออกมาแล้วเห็นชั้นขนมสีสันสดใสสวยงาม น่าทานจังค่ะ
สูตร ขนมชั้น

วิธีทำ ขนมชั้น
จัดเสิร์ฟใส่จานให้สวยงาม ลองทำตามกันดูนะคะ ก็จะได้ขนมชั้นแสนอร่อย ไว้ทานกันที่บ้านค่ะ

credit : http://www.xn--z3cba4ajcb9ab7t.com/

วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

10 อันดับ ดอกไม้ที่สวยที่สุดในโลก

อันดับที่ 10
ดอกกุหลาบ
     ดอกกุหลาบเป็นหนึ่งในที่สุดโรแมนติกและมหัศจรรย์หอมของดอกไม้ ของดอกกุหลาบให้แพร่หลายในประเพณีและความหมายทางวัฒนธรรมจากสีเหลืองเพิ่มขึ้นของมิตรภาพเพื่อแดงเข้มเพิ่มขึ้นของความรักที่แท้จริง

อันดับที่ 9
ดอกผกากรองหรือLantana
     ดอกไม้เหล่านี้ละเอียดอ่อนที่มีกลีบดอกสีชมพูและสีเหลืองของพวกเขาจะแม่เหล็กผีเสื้อ พุ่มไม้ที่สามารถเติบโตได้มีขนาดใหญ่มากและสีของการเปลี่ยนแปลงกลีบเป็นพืชอายุ ระวัง -- Lantana ถือว่าเป็นวัชพืชโดยมากมายที่ค่อนข้างยากที่จะกำจัด



อันดับที่ 8
ดอกระฆังหรือBlue Bells
     ในฤดูใบไม้ผลิป่ายุโรปจำนวนมากถูกปกคลุมด้วยพรมหนาแน่นของดอกไม้นี้เหล่านี้เป็นที่เรียกทั่วไปว่า"ไม้ดอกไม้ชนิดหนึ่ง" มันเป็นความคิดที่พวกเขาตั้งชื่อโดยกวีโรแมนติกของศตวรรษที่ 19, ผู้ที่รู้สึกว่าเหงาสัญลักษณ์และเสียใจ


อันดับที่ 7
ดอกโลหิตแห่งหัวใจหรือดอกหทัยหยาดทิพย์หรือBleeding Heart
เหตุที่เขาได้ชื่อว่า bleeding heart ก็เพราะว่า เมื่อดอกเขาผลิใหม่ ๆ ยังตูม ๆอยู่ที่ปลายแหลมของหัวใจด้านล่าง จะมีติ่งรูปร่างคล้ายหยดน้ำ มีสีแดง ๆ ดูเหมือนหยดเลือด  แต่เมื่อดอกเริ่มบาน  ตัวหยดจะเปิดออกให้เห็นใส้สีขาว ๆ อยู่ข้างใน คราวนี้จะเห็นหยดน้ำไหลออกมาจากหัวใจแทน คนเยอรมันเห็นตรงนี้เหมือนหยดน้ำตา เลยเรียกดอกนี้ว่า  Traenendes herz ดอกหัวใจเจ้าน้ำตา  ลองดูจากรูป รูปข้างบน หรือรูปข้างล่างก็ได้ ก็จะเห็นตามที่ว่านี้


อันดับที่ 6
ดอกซูซานตาดำหรือBlack Eyed Susan
ซูซานตาดำ, wildflower ร่าเริงอยู่ตลอดกาลที่ทำหน้าที่เป็นแบบเลื่อนกลับที่สวยงามในสวนใด ๆความคมชัดของสีทองสดใสกลีบดอกสีเหลืองและสีดำตรงกลางจะทำให้ง่ายต่อการใด ๆจุดหนึ่งและทราบว่าเป็น


อันดับที่ 5
คาลล่า ลิลลี่ หรือCalla Lily
คาลล่า ลิลลี่ (Calla Lily) เป็นพันธุ์ไม้หัว ที่มีหลากหลายสายพันธุ์ มีต้นกำเนิดในแอฟริกาใต้ สามารถแบ่งได้เป็น 2 สายพันธุ์ค่ะ คือพันธุ์ไม้ยืนต้น ที่ปลูกเพื่อเป็นไม้ตัดดอก (Cut Flower) และพันธุ์ไม้ล้มลุก ซึ่งจะมีการพักหัวในฤดูหนาว นิยมปลูกเป็นไม้กระถาง (Pot Flower) ถึงแม้คาลล่า ลิลลี่จะเป็นทางเลือกใหม่ที่คุ้มค่าสำหรับเกษตรกร ที่ต้องการปลูกเพื่อเป็นไม้ตัดดอก เนื่องจากลงทุนปลูกครั้งเดียว แต่สามารถตัดดอกขายได้ต่อเนื่องนานถึง 4- 5 ปีโดยไม่ต้องขุดหัวขั้นมาปลูกใหม่ แต่คาลล่า ลิลลี่ก็ยังมีข้อจำกัดเรื่องอุณหภูมิในการปลูก เหมาะสำหรับเกษตรกรที่อยู่บนที่สูงหรือบนดอย ที่มีอุณหภูมิที่ 18 - 24 องศาเซลเซียส


อันดับที่ 4
ดอกไฮเดรนเยีย
    ไฮเดรนเยีย(Hydrangea)เป็นไม้พุ่งสูง1-3เมตรจัดเป็นพืชหลายฤดูชอบอากาศหนาวเย็น บางชนิดเป็นไม้ยืนต้น

หรือไม้เลื้อยแต่ส่วนใหญ่มักเป็นไม้พุ่มเตี้ยใบเกิดแบบตรงข้ามแผ่นใบมีขนาดกว้างใหญ่ขอบใบจักช่อดอกเกิดส่วนปลายกิ่งหรือยอด

ลำต้นดอกประกอบด้วยใบประดับที่มีสีสวยงามแล้วแต่พันธุ์ ไฮเดรนเยียอาจผลัดใบหรือไม่ผลัดใบก็ได้แต่ถ้าเป็นชนิด

ที่อยู่ในเขตอบอุ่นจะผลัดใบพักตัวในฤดูหนาวดอกของไฮเดรนเยียเกิดที่ปลายยอดกิ่งหรือยอดลำต้น เป็นช่อดอกแบบช่อเชิง

หลั่นหรือช่อแยกแขนง(corymbsorpanicles) ช่อดอกประกอบด้วยดอกสองแบบคือกลุ่มดอกสมบูรณ์เพศซึ่งมีขนาดเล็ก

ที่อยู่บริเวณใจกลางช่อดอกใหญ่ ส่วนกลุ่มดอกที่มีขนาดดอกย่อยใหญ่สะดุดตานั้นความจริงเป็นดอกที่เกิดจากกลีบดอก

ประดับดูสะดุดตา เกิดเป็นวงรอบขอบนอกของช่อดอกใหญ่ไฮเดรนเยียบางชนิดมีช่อดอกซึ่งประกอบด้วยดอกย่อยสมบูรณ์เพศ

ทั้งช่อเลยก็มี ดอกไฮเดรนเยียส่วนใหญ่จะมีสีขาวเป็นหลัก แต่บางชนิด เช่น H. macrophylla อาจเป็นสีน้ำเงิน แดง

ชมพูหรือม่วง ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับความเป็นกรดหรือด่างของเครื่องปลูก หากเครื่องปลูกมีสภาพเป็นกรด pH 5.0-5.5สีดอกจะออก

เป็นสีน้ำเงิน ถ้าสภาพเป็นด่างจะให้ดอกสีม่วงหรือชมพูถ้าปลูกในเครื่องปลูกที่สภาพเป็นกลางดอกไฮเดรนเยียจะมีสีครีมซีด

ทั้งนี้เพราะไฮเดรนเยียเป็นหนึ่งในบรรดาพืชไม่กี่ชนิดที่สะสมธาตุอะลูมินัม ธาตุนี้จะถูกปลดปล่อยออกมาจากเครื่องปลูก

ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด ธาตุนี้จะทำปฏิกิริยากับสารละลายในกลีบดอกทำให้เกิดสีน้ำเงินขึ้นได้ ปกติไฮเดรนเยียต้องการดินที่เป็นกรดอ่อน

pH 6.0-6.5 จะเติบโตได้ดี

อันดับที่ 3
ดอกปักษาสวรรค์
ปักษาสวรรค์มีใบเป็นใบเดี่ยว รูปหอกแกมขอบขนาน คล้ายใบกล้วย ปลายใบแหลม โคนมนถึงสอบ ขอบเรียบกว้าง 10 - 15 ซม. ยาว 30 - 60 ซม. ก้านใบยาว 30 -60 ซม. บริเวณช่วงต่อกับแผ่นใบกลมมน โคนก้านใบแผ่แบนเป็นกาบโอบรอบต้น
จะเริ่มให้ดอกเมื่ออายุ 3 - 6 ปี ดอกมีรูปทรงคล้ายนกที่กำลังกางปีก อาจจะออกเป็นดอกเดี่ยว หรือเป็นช่อประมาณ 3 -7 ดอก ออกจากโคนกาบใบ ก้านช่อดอกกลม มีกาบรองดอกรูปเรือรองรับดอกย่อย แต่ละดอกประกอบด้วยกลีบเลี้ยงรูปหอกแคบยาว 3 กลีบ และกลีบดอกรูปหัวลูกศร 2 กลีบ ส่วนปลายกลีบห่อติดกัน มีเกสรเพศผู้และเพศเมียอยู่ภายใน ตอนปลายสุดของหัวลูกศรมียอดเกสรเพศเมียสีน้ำตาลยื่นออกมา เมื่อดอกบานเต็มที่มีความยาว 8 - 12 ซม. ทยอยบานจากโคนช่อไปปลายช่อ ผลมีรูปรี จะแห้งและแตก ภายในมีเมล็ด 3 เมล็ด รูปกลม มีเปลือกหนาสีดำ

canna picture

อันดับที่ 2
ดอกพุทธรักษา

     พุทธรักษาเป็นพรรณไม้ล้มลุก เนื้ออ่อนอวบน้ำ ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-2 เมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดินเรียกว่า เหง้า มีการเจริญเติบโตโดยแตกหน่อเป็นกอคล้ายกับกล้วย ลักษณะหน่อที่เจริญเป็นต้นเหนือพื้นดินนั้นมีลักษณะกลมแบนสีเขียวขนาดลำต้นโตประมาณ 2-4 เซนติเมตร ใบมีขนาดใหญ่สีเขียวโคนใบและปลายใบรีแหลม ขอบใบเรียบ กลางใบเป็นเส้นนูนเห็นได้ชัดโคนใบมีก้านใบซึ้งยาวเป็นกาบใบหุ้มลำต้นซ้อนสลับกัน ขนาดใบกว้างประมาณ 10-15 เซนติเมตร ยาวประมาณ 25-35 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อตรงส่วนยอดของลำต้น ช่อดอกยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร ประกอบด้วยดอก 8-10 ดอก และมีกลีบดอกบางนิ่ม ขนาดของดอกและสีสรรแตกต่างกันไปตามชนิดพันธ

อันดับที่ 1 
ดอกซากุระ
ดอกซากุระ ในภาษาญี่ปุ่นนั้น เชื่อกันว่ากร่อนมาจากคำว่า ซะกุยะ (หมายถึง ผลิบาน) อันเป็นชื่อของเจ้าหญิง โคโนฮะนะซะคุยาฮิเม มีศาลบูชาของพระองค์อยู่บนยอดเขาฟูจิด้วย สำหรับพระนามของเจ้าหญิงองค์ดังกล่าวนั้น มีความหมายว่าเจ้าหญิงดอกไม้บาน และเนื่องจากซากุระเป็นดอกไม้ที่นิยมกันมากในญี่ปุ่นสมัยนั้น คำว่าดอกไม้ดังกล่าวจึงหมายถึงดอกซากุระนั่นเอง เจ้าหญิงองค์ดังกล่าวได้รับพระนามเช่นนั้น ก็เพราะมีเรื่องเล่ามาว่าทรงตกจากสวรรค์ มาบนต้นซากุระ ดังนั้น ดอกซากุระจึงถือเป็นตัวแทนของดอกไม้ญี่ปุ่น ขณะที่รัฐบาลประกาศให้ดอกเก็กฮวย (ดอกเบญจมาส) เป็นดอกไม้ประจำชาติ

credit : http://board.postjung.com/540748.html