Free JavaScript from 
Rainbow Arch

//////////////

วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

10 อันดับ ดอกไม้ที่สวยที่สุดในโลก

อันดับที่ 10
ดอกกุหลาบ
     ดอกกุหลาบเป็นหนึ่งในที่สุดโรแมนติกและมหัศจรรย์หอมของดอกไม้ ของดอกกุหลาบให้แพร่หลายในประเพณีและความหมายทางวัฒนธรรมจากสีเหลืองเพิ่มขึ้นของมิตรภาพเพื่อแดงเข้มเพิ่มขึ้นของความรักที่แท้จริง

อันดับที่ 9
ดอกผกากรองหรือLantana
     ดอกไม้เหล่านี้ละเอียดอ่อนที่มีกลีบดอกสีชมพูและสีเหลืองของพวกเขาจะแม่เหล็กผีเสื้อ พุ่มไม้ที่สามารถเติบโตได้มีขนาดใหญ่มากและสีของการเปลี่ยนแปลงกลีบเป็นพืชอายุ ระวัง -- Lantana ถือว่าเป็นวัชพืชโดยมากมายที่ค่อนข้างยากที่จะกำจัด



อันดับที่ 8
ดอกระฆังหรือBlue Bells
     ในฤดูใบไม้ผลิป่ายุโรปจำนวนมากถูกปกคลุมด้วยพรมหนาแน่นของดอกไม้นี้เหล่านี้เป็นที่เรียกทั่วไปว่า"ไม้ดอกไม้ชนิดหนึ่ง" มันเป็นความคิดที่พวกเขาตั้งชื่อโดยกวีโรแมนติกของศตวรรษที่ 19, ผู้ที่รู้สึกว่าเหงาสัญลักษณ์และเสียใจ


อันดับที่ 7
ดอกโลหิตแห่งหัวใจหรือดอกหทัยหยาดทิพย์หรือBleeding Heart
เหตุที่เขาได้ชื่อว่า bleeding heart ก็เพราะว่า เมื่อดอกเขาผลิใหม่ ๆ ยังตูม ๆอยู่ที่ปลายแหลมของหัวใจด้านล่าง จะมีติ่งรูปร่างคล้ายหยดน้ำ มีสีแดง ๆ ดูเหมือนหยดเลือด  แต่เมื่อดอกเริ่มบาน  ตัวหยดจะเปิดออกให้เห็นใส้สีขาว ๆ อยู่ข้างใน คราวนี้จะเห็นหยดน้ำไหลออกมาจากหัวใจแทน คนเยอรมันเห็นตรงนี้เหมือนหยดน้ำตา เลยเรียกดอกนี้ว่า  Traenendes herz ดอกหัวใจเจ้าน้ำตา  ลองดูจากรูป รูปข้างบน หรือรูปข้างล่างก็ได้ ก็จะเห็นตามที่ว่านี้


อันดับที่ 6
ดอกซูซานตาดำหรือBlack Eyed Susan
ซูซานตาดำ, wildflower ร่าเริงอยู่ตลอดกาลที่ทำหน้าที่เป็นแบบเลื่อนกลับที่สวยงามในสวนใด ๆความคมชัดของสีทองสดใสกลีบดอกสีเหลืองและสีดำตรงกลางจะทำให้ง่ายต่อการใด ๆจุดหนึ่งและทราบว่าเป็น


อันดับที่ 5
คาลล่า ลิลลี่ หรือCalla Lily
คาลล่า ลิลลี่ (Calla Lily) เป็นพันธุ์ไม้หัว ที่มีหลากหลายสายพันธุ์ มีต้นกำเนิดในแอฟริกาใต้ สามารถแบ่งได้เป็น 2 สายพันธุ์ค่ะ คือพันธุ์ไม้ยืนต้น ที่ปลูกเพื่อเป็นไม้ตัดดอก (Cut Flower) และพันธุ์ไม้ล้มลุก ซึ่งจะมีการพักหัวในฤดูหนาว นิยมปลูกเป็นไม้กระถาง (Pot Flower) ถึงแม้คาลล่า ลิลลี่จะเป็นทางเลือกใหม่ที่คุ้มค่าสำหรับเกษตรกร ที่ต้องการปลูกเพื่อเป็นไม้ตัดดอก เนื่องจากลงทุนปลูกครั้งเดียว แต่สามารถตัดดอกขายได้ต่อเนื่องนานถึง 4- 5 ปีโดยไม่ต้องขุดหัวขั้นมาปลูกใหม่ แต่คาลล่า ลิลลี่ก็ยังมีข้อจำกัดเรื่องอุณหภูมิในการปลูก เหมาะสำหรับเกษตรกรที่อยู่บนที่สูงหรือบนดอย ที่มีอุณหภูมิที่ 18 - 24 องศาเซลเซียส


อันดับที่ 4
ดอกไฮเดรนเยีย
    ไฮเดรนเยีย(Hydrangea)เป็นไม้พุ่งสูง1-3เมตรจัดเป็นพืชหลายฤดูชอบอากาศหนาวเย็น บางชนิดเป็นไม้ยืนต้น

หรือไม้เลื้อยแต่ส่วนใหญ่มักเป็นไม้พุ่มเตี้ยใบเกิดแบบตรงข้ามแผ่นใบมีขนาดกว้างใหญ่ขอบใบจักช่อดอกเกิดส่วนปลายกิ่งหรือยอด

ลำต้นดอกประกอบด้วยใบประดับที่มีสีสวยงามแล้วแต่พันธุ์ ไฮเดรนเยียอาจผลัดใบหรือไม่ผลัดใบก็ได้แต่ถ้าเป็นชนิด

ที่อยู่ในเขตอบอุ่นจะผลัดใบพักตัวในฤดูหนาวดอกของไฮเดรนเยียเกิดที่ปลายยอดกิ่งหรือยอดลำต้น เป็นช่อดอกแบบช่อเชิง

หลั่นหรือช่อแยกแขนง(corymbsorpanicles) ช่อดอกประกอบด้วยดอกสองแบบคือกลุ่มดอกสมบูรณ์เพศซึ่งมีขนาดเล็ก

ที่อยู่บริเวณใจกลางช่อดอกใหญ่ ส่วนกลุ่มดอกที่มีขนาดดอกย่อยใหญ่สะดุดตานั้นความจริงเป็นดอกที่เกิดจากกลีบดอก

ประดับดูสะดุดตา เกิดเป็นวงรอบขอบนอกของช่อดอกใหญ่ไฮเดรนเยียบางชนิดมีช่อดอกซึ่งประกอบด้วยดอกย่อยสมบูรณ์เพศ

ทั้งช่อเลยก็มี ดอกไฮเดรนเยียส่วนใหญ่จะมีสีขาวเป็นหลัก แต่บางชนิด เช่น H. macrophylla อาจเป็นสีน้ำเงิน แดง

ชมพูหรือม่วง ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับความเป็นกรดหรือด่างของเครื่องปลูก หากเครื่องปลูกมีสภาพเป็นกรด pH 5.0-5.5สีดอกจะออก

เป็นสีน้ำเงิน ถ้าสภาพเป็นด่างจะให้ดอกสีม่วงหรือชมพูถ้าปลูกในเครื่องปลูกที่สภาพเป็นกลางดอกไฮเดรนเยียจะมีสีครีมซีด

ทั้งนี้เพราะไฮเดรนเยียเป็นหนึ่งในบรรดาพืชไม่กี่ชนิดที่สะสมธาตุอะลูมินัม ธาตุนี้จะถูกปลดปล่อยออกมาจากเครื่องปลูก

ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด ธาตุนี้จะทำปฏิกิริยากับสารละลายในกลีบดอกทำให้เกิดสีน้ำเงินขึ้นได้ ปกติไฮเดรนเยียต้องการดินที่เป็นกรดอ่อน

pH 6.0-6.5 จะเติบโตได้ดี

อันดับที่ 3
ดอกปักษาสวรรค์
ปักษาสวรรค์มีใบเป็นใบเดี่ยว รูปหอกแกมขอบขนาน คล้ายใบกล้วย ปลายใบแหลม โคนมนถึงสอบ ขอบเรียบกว้าง 10 - 15 ซม. ยาว 30 - 60 ซม. ก้านใบยาว 30 -60 ซม. บริเวณช่วงต่อกับแผ่นใบกลมมน โคนก้านใบแผ่แบนเป็นกาบโอบรอบต้น
จะเริ่มให้ดอกเมื่ออายุ 3 - 6 ปี ดอกมีรูปทรงคล้ายนกที่กำลังกางปีก อาจจะออกเป็นดอกเดี่ยว หรือเป็นช่อประมาณ 3 -7 ดอก ออกจากโคนกาบใบ ก้านช่อดอกกลม มีกาบรองดอกรูปเรือรองรับดอกย่อย แต่ละดอกประกอบด้วยกลีบเลี้ยงรูปหอกแคบยาว 3 กลีบ และกลีบดอกรูปหัวลูกศร 2 กลีบ ส่วนปลายกลีบห่อติดกัน มีเกสรเพศผู้และเพศเมียอยู่ภายใน ตอนปลายสุดของหัวลูกศรมียอดเกสรเพศเมียสีน้ำตาลยื่นออกมา เมื่อดอกบานเต็มที่มีความยาว 8 - 12 ซม. ทยอยบานจากโคนช่อไปปลายช่อ ผลมีรูปรี จะแห้งและแตก ภายในมีเมล็ด 3 เมล็ด รูปกลม มีเปลือกหนาสีดำ

canna picture

อันดับที่ 2
ดอกพุทธรักษา

     พุทธรักษาเป็นพรรณไม้ล้มลุก เนื้ออ่อนอวบน้ำ ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-2 เมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดินเรียกว่า เหง้า มีการเจริญเติบโตโดยแตกหน่อเป็นกอคล้ายกับกล้วย ลักษณะหน่อที่เจริญเป็นต้นเหนือพื้นดินนั้นมีลักษณะกลมแบนสีเขียวขนาดลำต้นโตประมาณ 2-4 เซนติเมตร ใบมีขนาดใหญ่สีเขียวโคนใบและปลายใบรีแหลม ขอบใบเรียบ กลางใบเป็นเส้นนูนเห็นได้ชัดโคนใบมีก้านใบซึ้งยาวเป็นกาบใบหุ้มลำต้นซ้อนสลับกัน ขนาดใบกว้างประมาณ 10-15 เซนติเมตร ยาวประมาณ 25-35 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อตรงส่วนยอดของลำต้น ช่อดอกยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร ประกอบด้วยดอก 8-10 ดอก และมีกลีบดอกบางนิ่ม ขนาดของดอกและสีสรรแตกต่างกันไปตามชนิดพันธ

อันดับที่ 1 
ดอกซากุระ
ดอกซากุระ ในภาษาญี่ปุ่นนั้น เชื่อกันว่ากร่อนมาจากคำว่า ซะกุยะ (หมายถึง ผลิบาน) อันเป็นชื่อของเจ้าหญิง โคโนฮะนะซะคุยาฮิเม มีศาลบูชาของพระองค์อยู่บนยอดเขาฟูจิด้วย สำหรับพระนามของเจ้าหญิงองค์ดังกล่าวนั้น มีความหมายว่าเจ้าหญิงดอกไม้บาน และเนื่องจากซากุระเป็นดอกไม้ที่นิยมกันมากในญี่ปุ่นสมัยนั้น คำว่าดอกไม้ดังกล่าวจึงหมายถึงดอกซากุระนั่นเอง เจ้าหญิงองค์ดังกล่าวได้รับพระนามเช่นนั้น ก็เพราะมีเรื่องเล่ามาว่าทรงตกจากสวรรค์ มาบนต้นซากุระ ดังนั้น ดอกซากุระจึงถือเป็นตัวแทนของดอกไม้ญี่ปุ่น ขณะที่รัฐบาลประกาศให้ดอกเก็กฮวย (ดอกเบญจมาส) เป็นดอกไม้ประจำชาติ

credit : http://board.postjung.com/540748.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น